ขจัดสารพิษตกค้าง ด้วยการสวนล้างลำไส้ Colon Detox
37 ผู้เข้าชม
ลำไส้ใหญ่ที่สุขภาพดีจะส่งผลให้คุณมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วย แม้ว่าจะมีระบบขับถ่ายที่ดีเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงมีของเสียและสารพิษตกค้างในลำไส้ส่วนลึกที่การขับถ่ายในชีวิตประจำวันไม่สามารถขจัดออกมาได้หมด ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ไขด้วยการ สวนล้างลำไส้
การสวนล้างลำไส้ (Colon Detox) คืออะไร
การสวนล้างลำไส้ (Colon Detox) คือ วิธีล้างพิษโดยการสวนล้างด้วยน้ำบริสุทธิ์หรือน้ำที่มีประจุแร่ธาตุเพื่อขจัดสารพิษหรือของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย รวมถึงเมือกที่เกาะตามผนังลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น ภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองหรือภูมิแพ้เรื้อรัง ความเหนื่อยล้า ความอ่อนเพลีย ซึมเศร้า โรคผิวหนัง โรคทางเดินอาหาร การขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเฟ้อเป็นประจำ อาหารไม่ย่อย เป็นต้น ผ่านวิธีการสวนทางทวารหนักด้วยระบบปิด (Closed System) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย และนำของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกมาให้หมด
ประโยชน์ของการสวนล้างลำไส้ขจัดสารพิษ (Colon Detox)
ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆ จะถูกชะล้างออกไป
เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ทำให้กล้ามเนื้อลำไส้แข็งแรงและทำงานได้มากขึ้น จึงช่วยผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและอุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ
ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ลดอาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียมาอุดตัน
กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลือง และการหมุนเวียนของเลือด ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวม
ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น เพราะการสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ส่งผลให้ร่างกายโดยรวมสามารถดูดซึมน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้นทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และชะลอการเกิดโรคได้
ประโยชน์จากการสวนล้างลำไส้ (Colon Detox)
การเตรียมตัวก่อนการสวนล้างลำไส้ (Colon Detox)
ข้อห้ามในการทำ Detox
การสวนล้างลำไส้ทำบ่อยได้แค่ไหน
การสวนล้างลำไส้ (Colon Detox) สามารถทำได้ในผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงโดยผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 18 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะท้องผูก ท้องเสีย ขับถ่ายไม่เป็นเวลา และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มีผดผื่นแพ้ง่าย โดยจำนวนครั้งในการทำนั้นในช่วงแรกสามารถสวนล้างลำไส้ได้ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ลำไส้ขับถ่ายและนำของเสียออกมาจากร่างกายจนหมดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อร่างกายสามารถปรับตัวกับระบบการขับถ่ายที่ต่อเนื่องมากขึ้นได้แล้ว ก็สามารถเปลี่ยนมารับบริการเดือนละ 1 ครั้งได้ แต่ถ้ามีอาการท้องผูก ควรทำ 1-2 สัปดาห์/ประมาณ 3 ครั้งต่อเนื่องกัน ควบคู่ไปกับการดูแลเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพลำไส้ เพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดีขึ้น
การสวนล้างลำไส้ (Colon Detox) คืออะไร
การสวนล้างลำไส้ (Colon Detox) คือ วิธีล้างพิษโดยการสวนล้างด้วยน้ำบริสุทธิ์หรือน้ำที่มีประจุแร่ธาตุเพื่อขจัดสารพิษหรือของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย รวมถึงเมือกที่เกาะตามผนังลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น ภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเองหรือภูมิแพ้เรื้อรัง ความเหนื่อยล้า ความอ่อนเพลีย ซึมเศร้า โรคผิวหนัง โรคทางเดินอาหาร การขับถ่ายผิดปกติ เช่น ท้องผูก ท้องเฟ้อเป็นประจำ อาหารไม่ย่อย เป็นต้น ผ่านวิธีการสวนทางทวารหนักด้วยระบบปิด (Closed System) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย และนำของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ออกมาให้หมด
ประโยชน์ของการสวนล้างลำไส้ขจัดสารพิษ (Colon Detox)
ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆ จะถูกชะล้างออกไป
เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ทำให้กล้ามเนื้อลำไส้แข็งแรงและทำงานได้มากขึ้น จึงช่วยผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและอุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ
ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ลดอาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียมาอุดตัน
กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลือง และการหมุนเวียนของเลือด ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกายโดยรวม
ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น เพราะการสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ส่งผลให้ร่างกายโดยรวมสามารถดูดซึมน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้นทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และชะลอการเกิดโรคได้
ประโยชน์จากการสวนล้างลำไส้ (Colon Detox)
- กลุ่มโรคทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก โรคลำไส้ระคายเคือง ลำไส้ใหญ่อักเสบ ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย อาการมีกลิ่นปาก ลิ้นเป็นฝ้า แผลในปาก ริดสีดวงทวาร
- กลุ่มอาการโรคภูมิต้านทาน เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคลมพิษผื่นแพ้ ภาวะภูมิต้านทานต่ำ โรคภูมิต้านทานไวเกิน
- กลุ่มโรคความเสื่อมของร่างกาย เช่น ผิวพรรณเหี่ยวย่น แห้ง ไม่สดชื่น โรคข้อเสื่อม โรคมะเร็ง ปวดศีรษะ ไมเกรน เครียด นอนไม่หลับ
การเตรียมตัวก่อนการสวนล้างลำไส้ (Colon Detox)
- ควรทานอาหารเบาและงดอาหาร 2 ชั่วโมงก่อนเข้ารับบริการ
- บุคคลที่มีปัญหา โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ได้รับการผ่าตัดช่องท้องมาก่อนต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
- หลังการทำอาจมีอาการอ่อนเพลีย แต่ไม่มาก
- หากมีประวัติการแพ้ยา แพ้อาหาร หรือแพ้เครื่องดื่มกาแฟ ควรแจ้งแพทย์หรือพยาบาลก่อนเข้ารับบริการ
ขั้นตอนการสวนล้างลำไส้เพื่อขจัดสารพิษ (Colon Detox)
การสวนล้างลำไส้ พยาบาลจะเป็นผู้ควบคุมเครื่องระบบแรงดันและปริมาณน้ำ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับลำไส้ สามารถส่งน้ำเข้าไปถึงลำไส้ส่วนต้น ล้างลำไส้ใหญ่ได้ทั้งระบบโดยไม่ต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- การทำ Detox จะทำในห้องที่มิดชิด ผู้มารับบริการจะนอนบนเตียงล้างลำไส้ซึ่งมีโถรองรับของเสียที่จะกำจัดออก เริ่มจากสอดหลอดสวนทวารที่เคลือบสารหล่อลื่น (หลอดปลอดเชื้อ) เข้าทางทวารหนักลึกประมาณ 2 นิ้ว
- ใช้น้ำยาสวนปริมาณ 25 ลิตร เครื่องจะปรับอุณหภูมิน้ำยาให้เท่ากับลำไส้ และฆ่าเชื้อในน้ำยาก่อนส่งเข้าลำไส้ เมื่อหลอดสวนทวารถูกสวนเข้าไปทางทวารหนักแล้ว จึงจะเริ่มเปิดน้ำอุ่นเข้าสู่ลำไส้อย่างช้า ๆ เพื่อให้ลำไส้ค่อย ๆ ปรับสภาพรับน้ำยาที่ไหลเข้าไป
- ช่วงแรก ผู้รับบริการอาจรู้สึกอยากถ่าย ควรกลั้นไว้ก่อนประมาณ 5-10 วินาที เมื่อรู้สึกปวดเบ่งอยากถ่ายให้ถ่ายออกมาได้เลย ในระหว่างนั้นผู้ให้บริการจะช่วยนวดหน้าท้องเพื่อให้คราบตะกรัน หรือเศษอุจจาระที่เคลือบจับอยู่ตามผนังด้านในของลำไส้เคลื่อนออกได้ดีขึ้น
- การสวนล้างลำไส้ด้วยเครื่องล้างลำไส้จะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที และควรนอนพักต่ออีกประมาณ 5-10 นาที เพื่อขับถ่ายส่วนที่เหลือค้างอยู่ในลำไส้ออกให้หมดแล้วจึงค่อยทำความสะอาดร่างกาย
- เติมจุลินทรีย์ชนิดดี (Probiotics) เข้าทดแทนส่วนที่ถูกล้างออกไปเพื่อให้ลำไส้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การปฏิบัติตัวหลังการสวนล้างลำไส้
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน
- งดอาหารหนักท้องหรืออาหารย่อยยาก เช่น เนื้อสัตว์
- รับประทานอาหารประเภทโปรตีนย่อยง่าย เช่น เนื้อกุ้ง เนื้อปลา หรือไข่แทน
- ควรเติมแบคทีเรียชนิดดีอย่างโพรไบโอติกส์เข้าสู่ร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหักโหมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลังการสวนล้างลำไส้สามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
ข้อห้ามในการทำ Detox
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
- ผู้มีภาวะไตวาย
- หลังจากการผ่าตัดในช่องท้อง/รีแพร์ ภายใน 3 เดือน
- หลังจากผ่าตัดตาหรือทำเลสิคภายใน 1 เดือน
- หลังจากการผ่าตัดริดสีดวงทวารภายใน 2 เดือน
- ถ่ายเป็นเลือดสดภายใน 7 วัน รวมถึงเจ็บทางทวารหนักภายใน 7 วัน
- ค่าความดัน BP 180/100 mmHg.
- ผู้ที่ผ่าตัดเปิดลำไส้เพื่อเปิดรูทวารทางหน้าท้อง
การสวนล้างลำไส้ทำบ่อยได้แค่ไหน
การสวนล้างลำไส้ (Colon Detox) สามารถทำได้ในผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงโดยผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 18 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะท้องผูก ท้องเสีย ขับถ่ายไม่เป็นเวลา และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มีผดผื่นแพ้ง่าย โดยจำนวนครั้งในการทำนั้นในช่วงแรกสามารถสวนล้างลำไส้ได้ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ลำไส้ขับถ่ายและนำของเสียออกมาจากร่างกายจนหมดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อร่างกายสามารถปรับตัวกับระบบการขับถ่ายที่ต่อเนื่องมากขึ้นได้แล้ว ก็สามารถเปลี่ยนมารับบริการเดือนละ 1 ครั้งได้ แต่ถ้ามีอาการท้องผูก ควรทำ 1-2 สัปดาห์/ประมาณ 3 ครั้งต่อเนื่องกัน ควบคู่ไปกับการดูแลเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพลำไส้ เพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดีขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
นวัตกรรมใหม่ในวงการความงามและสุขภาพที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อและสลายไขมันในเวลาเดียวกัน